Price List FAQ Book Now
Page Top

skyberry

ใช้งานอินเตอร์เน็ตในต่างประเทศต้อง Skyberry

02-105-4568
contact application form

JAPAN

ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ: ตำนานจิ้งจอกผู้เฝ้าประตูแดงแห่งเกียวโต

สวัสดีครับ ถ้าหากพูดถึงศาลเจ้าที่มีชื่อเสียงที่สุดของญี่ปุ่น ผมเชื่อว่า “ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริ (伏見稲荷大社)” อาจจะเป็นศาลเจ้าที่หลายๆท่านที่เคยค้นหาอาจจะเคยผ่านตากันมาบ้างเพราะว่าความโด่งดังในเรื่องของการท่องเที่ยวด้วยเอกลักษณ์ที่มี “ประตูโทริอิสีแดงนับพันต้น” ที่เรียงกันบนภูเขาอินาริ โดยสร้างเป็นอุโมงค์ศักดิ์สิทธิ์สุดสวยงาม จนเป็นที่จดจำของใครหลายๆคนเลยครับ หากมองจากความสวยงามนี้แล้วศาลเจ้าแห่งนี้ยังมีประวัติยาวนานมากว่า 1,300 ปี และยังเป็นสิ่งที่แสดงถึงความศรัทธาต่อเทพเจ้าผู้มอบความอุดมสมบูรณ์ที่มีชื่อว่า “อินาริ” ด้วยครับ และในวันนี้ผมจะพาทุกท่านไปรู้จักกับประวัติของที่นี่กัน ว่าแล้วก็ไปลองอ่านกันได้เลยครับ

 

 

จุดกำเนิดของศาลเจ้าแห่งข้าวและโชคลาภ

ศาลเจ้าฟุชิมิอินารินั้นอยู่ที่ย่านฟุชิมิ เมืองเกียวโต โดยถูกสร้างขึ้นเมื่อปี ค.ศ. 711 ในสมัยนารา โดยตระกูล ฮาตะ (秦氏) ซึ่งเป็นตระกูลเก่าแก่ที่มีบทบาทสำคัญด้านเศรษฐกิจของญี่ปุ่นในสมัยนั้น โดยมีตำนานเล่าว่า หัวหน้าตระกูลฮาตะได้เห็น “ข้าวสาลีสีทองร่วงจากท้องฟ้า” จึงได้สร้างศาลเจ้าเพื่อบูชาเทพผู้มอบผลผลิตแห่งผืนดิน และเพทองค์นั้นก็คือ เทพอินาริ (稲荷神) ซึ่งต่อมากลายเป็นเทพแห่ง การเกษตร ความมั่งคั่ง และการค้าขายครับ ดังนั้นศาลเจ้าฟุชิมิอินาริจึงไม่ได้เป็นเพียงที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของเกษตรกรเท่านั้น แต่ยังเป็นที่พึ่งของพ่อค้าและนักธุรกิจทั่วประเทศด้วยนั่นเองครับ

 

จิ้งจอกผู้เป็นทูตของเทพอินาริ

หากเมื่อเดินเข้าสู่บริเวณศาลเจ้า สิ่งที่จะเห็นได้ชัดคือ รูปปั้นจิ้งจอก (狐, Kitsune) ที่ตั้งอยู่แทบจะทุกที่ในศาลเจ้าแห่งนี้ โดยจิ้งจอกเหล่านี้ไม่ได้ถูกมองว่าเป็นสัตว์เจ้าเล่ห์เหมือนในนิทานของฝั่งตะวันตก แต่เป็น “ผู้ส่งสารของเทพอินาริ” นั่นเองครับ และเราเองก็จะได้เห็นจิ้งจอกคาบสิ่งของต่างๆ เช่น

– กุญแจยุ้งฉาง หมายถึงการเก็บเกี่ยวผลผลิต

– ลูกแก้ว แทนพลังศักดิ์สิทธิ์

– รวงข้าว สื่อถึงความอุดมสมบูรณ์

จึงไม่ใช่สิ่งที่แปลกที่ของฝากและเครื่องรางจากศาลเจ้านี้มักมี “จิ้งจอก” เป็นลวดลายหลัก เพราะเชื่อว่าจะช่วยดึงดูดโชคลาภและปกป้องทรัพย์สินของคนคนนั้นนั่นเองครับ

 

 

อุโมงค์โทริอิสีแดงหมื่นต้น

และเอกลักษณ์ที่โดดเด่นที่สุดของศาลเจ้าแห่งนี้ก็คือ ประตูโทริอิ (鳥居) สีแดงที่เรียงต่อกันเป็นทางยาวขึ้นไปบนภูเขาอินาริ หรือที่รู้จักกันในชื่อ “เส้นทางเซ็มบงโทริอิ (千本鳥居)” หมายถึง “ประตูพันต้น” แต่ปัจจุบันมีจำนวนกว่า 10,000 ต้นไปแล้วครับ โดยประตูแต่ละต้นจะถูกบริจาคโดยบริษัท ร้านค้า หรือบุคคลทั่วไป เพื่อแสดงความขอบคุณเมื่อสมหวังในการขอพร และบนเสาโทริอิทุกต้นเองก็จะมีการสลักชื่อผู้บริจาคและวันที่ถวายไว้ด้วยครับ เรื่องของสีเองก็มีความหมายซ่อนอยู่ในตัวมันด้วยครับ โดยที่สีแดง (朱色) ของโทริอิเป็นสีที่ชาวญี่ปุ่นเชื่อว่ามีพลังในการขับไล่สิ่งไม่ดีและดึงดูดพลังมงคลครับ

 

เส้นทางสู่ยอดภูเขาอินาริ

หลังศาลเจ้าหลักคือ ภูเขาอินาริ (稲荷山) ซึ่งมีความสูงประมาณ 233 เมตร ผู้คนที่ศรัทธามักเดินขึ้นสู่ยอดเขาเพื่อกราบศาลเจ้าขนาดเล็กที่เรียงกันอยู่ตลอดทางกว่า 30 แห่ง และระหว่างทางก็เต็มไปด้วยประตูโทริอิและศาลเจ้าย่อยที่เรียงรายกันไปตลอดทาง บางจุดเองก็ยังสามารถมองเห็นวิวเมืองเกียวโตได้อย่างสวยงามเลยครับ ต้องบอกว่าการเดินขึ้นเขานี้ไม่ได้เป็นเพียงเป็นการออกกำลังกาย แต่ยังเป็นเหมือนการชำระจิตใจและขอพรให้ชีวิตราบรื่นอีกด้วยนั่นเองครับ โดยนักท่องเที่ยวส่วนใหญ่จะใช้เวลาเดินทั้งหมดประมาณ 2-3 ชั่วโมงครับ

 

 

เทศกาลต่างๆ

ศาลเจ้าฟุชิมิอินาริเป็นศูนย์กลางของศาลเจ้าอินาริทั่วประเทศญี่ปุ่น ซึ่งมีมากกว่า 30,000 แห่งครับ และในแต่ละปีนั้นจะมีพิธีสำคัญ เช่น

– Hatsu-uma Matsuri (初午祭) ในเดือนกุมภาพันธ์ เพื่อระลึกถึงวันที่เทพอินาริมาเยือนภูเขาครั้งแรก

– Inari Matsuri (稲荷祭) ในเดือนเมษายน เพื่อขอบคุณเทพเจ้าสำหรับผลผลิต

ในช่วงเทศกาลแต่ละเทศกาล ผู้คนหลากหลายคนจะมาที่ศาลเจ้า จะมีอาหารพื้นเมือง และบรรยากาศอบอุ่นแบบญี่ปุ่นแท้ๆด้วยครับ

 

อาหารขึ้นชื่อและของฝาก

ที่ศาลเจ้าแห่งนี้ สิ่งที่ห้ามพลาดเลยก็คือ “คิทสึเนะอุด้ง (きつねうどん)” หรืออุด้งหน้าเต้าหู้ทอดหวาน ที่เชื่อว่าเป็นอาหารโปรดของจิ้งจอกเทพอินาริครับ ส่วนของฝากยอดนิยมคือ เครื่องรางโอมาโมริ (お守り) และ เอมะ (絵馬) แผ่นไม้รูปหน้าจิ้งจอกสำหรับเขียนคำอธิษฐานครับ

 

จะเห็นได้เลยครับว่าศาลเจ้าฟุชิมิอินาริไม่ได้เป็นเพียงแค่สถานที่ท่องเที่ยวเท่านั้น แต่ยังเป็นศูนย์รวมแห่งความศรัทธาและจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่นเลยครับ จากจุดเริ่มต้นจากศาลเจ้าเล็กๆของตระกูลหนึ่งเมื่อพันกว่าปีก่อน สู่สัญลักษณ์แห่งความศรัทธาและจิตวิญญาณของชาวญี่ปุ่น ณ ปัจจุบัน หากท่านไหนมีโอกาสได้ลองไปญี่ปุ่น ผมก็ขอแนะนำให้ลองไปที่นี่กันดูครับ แล้วทุกท่านอาจจะได้พบกับบรรยากาศความสงบท่ามกลางภูเขา ประตูโทริอิ และรูปปั้นจิ้งจอกที่เรียงรายกันครับ

 

🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷

Internet SIM โดยจะมีระยะเวลา 4 วัน 7 วัน 10 วันและ 15 วันครับ ทุกท่านสามารถใช้งานได้แบบอุ่นใจไม่ต้องกลัว internet หมดเพราะตัว SIM เป็นแบบไม่จำกัดปริมาณ (Unlimited) ครับ โดยตัว SIM รองรับทั้ง iOS และ Android ไม่ว่าลูกค้าจะใช้งานโทรศัพท์รุ่นอะไรที่ใช้ระบบปฏิบัติการดังกล่าวก็จะสามารถใช้งาน SIM นี้ได้อย่างไม่มีปัญหาครับ

หากสนใจสามารถคลิกที่ลิ้งค์ด้านล่างนี้ได้เลยครับ