Price List FAQ Book Now
Page Top

skyberry

ใช้งานอินเตอร์เน็ตในต่างประเทศต้อง Skyberry

02-105-4568
contact application form

JAPAN

รู้ไหม? คำว่า "สาเก" มีประวัติยาวนานกว่าที่คิด

     คำว่า 酒” (อ่านว่า sake หรือ shu) มีที่มาเก่าแก่ย้อนไปได้ถึงยุคโบราณของญี่ปุ่น และมีความหมายกว้างที่เปลี่ยนแปลงไปตามยุคสมัย เดิมไม่ได้หมายถึง “เหล้าญี่ปุ่น” เพียงอย่างเดียว แต่หมายถึง “เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด”

 

ที่มาของคำว่า “酒” (sake)

รากศัพท์ภาษาจีน

ตัวอักษร มีต้นกำเนิดจากภาษาจีนโบราณ อ่านว่า jiǔ (จิ่ว) ซึ่งหมายถึง “เหล้า” หรือ “เครื่องดื่มหมักจากข้าว ธัญพืช หรือผลไม้” โครงสร้างของอักษรประกอบด้วยสองส่วน คือ “氵” (น้ำ) และ “酉” (รูปภาชนะบรรจุเหล้า) ซึ่งเมื่อรวมกันแล้วจึงสื่อความหมายว่า “ของเหลวในภาชนะ” หรือ “ของหมักที่ดื่มได้”

เมื่อญี่ปุ่นรับอักษรจีนเข้ามาในช่วงศตวรรษที่ 4–5 (ยุคโคฟุน – 古墳時代) อักษร “酒” ก็ถูกนำมาใช้ในภาษาญี่ปุ่นด้วย

ในภาษาญี่ปุ่นจึงมีการอ่านสองแบบคือ

– On’yomi (音読み) เสียงแบบจีน: “shu

– Kun’yomi (訓読み) เสียงแบบญี่ปุ่น: “sake” หรือ “zake” (เมื่อต่อท้ายคำอื่น) การมีสองระบบเสียงนี้แสดงถึงการผสมผสานทางภาษาระหว่างวัฒนธรรมจีนและญี่ปุ่นที่เกิดขึ้นอย่างต่อเนื่องตั้งแต่ยุคโคฟุน

  •  

ที่มา : en.sake-times.com

 

พัฒนาความหมายในญี่ปุ่น

เดิมคำว่า 酒 (sake) ใช้เรียก “เหล้า” ทุกประเภท ไม่จำกัดเฉพาะเหล้าญี่ปุ่น เช่น ไวน์ เบียร์ หรือเหล้ากลั่นอื่น ๆ

แต่เมื่อเวลาผ่านไป โดยเฉพาะในยุคเอโดะ (ค.ศ. 1603–1868) ที่มีการผลิต “เหล้าข้าวหมัก” อย่างแพร่หลาย คำว่า sake ในชีวิตประจำวันของคนญี่ปุ่นจึงเริ่มหมายถึง “เหล้าญี่ปุ่น” โดยเฉพาะ

เพื่อแยกให้ชัดเจน คนญี่ปุ่นจึงมักเรียกเหล้าญี่ปุ่นว่า
日本酒 (nihon-shu) หมายถึง “เหล้าญี่ปุ่น” (แปลตรงตัวว่า “เหล้าของญี่ปุ่น”)

 

การออกเสียง “sake” กับ “zake”

เมื่อ “酒” เป็นคำเดี่ยว → อ่านว่า sake (さけ)

แต่ถ้าอยู่หลังคำอื่น เช่น お神酒 (omiki / o-zake) = เหล้าที่ถวายเทพเจ้า

– 甘酒 (amazake) = เหล้าหวาน (เหล้าที่มีแอลกอฮอล์ต่ำหรือไม่มีเลย)
จะเปลี่ยนเสียง sz ตามกฎเสียงในภาษาญี่ปุ่น (連濁, rendaku)

 

วิวัฒนาการของคำว่า “” (sake)

การใช้คำว่า “酒” สามารถแบ่งตามช่วงเวลาได้ดังนี้

ยุคโจมง (縄文時代) – ราว 300 ปีก่อนคริสต์ศักราช

เหตุการณ์สำคัญ มีหลักฐานทางโบราณคดีจากเศษภาชนะดินเผาชี้ว่ามีการหมักข้าวและผลไม้เพื่อใช้ในพิธีกรรมชุมชน

ความหมายและการใช้คำว่า “酒” ในความหมายดั้งเดิมคือ “เหล้าที่เกิดจากการหมัก” เพื่อสื่อสารกับเทพเจ้า

 

ยุคยาโยอิ (弥生時代) ราว 300 ปีก่อนคริสต์ศักราช – ค.ศ. 300

เหตุการณ์สำคัญ เริ่มมีการเพาะปลูกข้าว จึงเกิดการหมัก “เหล้าข้าว” เป็นครั้งแรก

ความหมายและการใช้คำว่า ใช้เหล้าในพิธีกรรม เช่น การขอพรให้พืชผลอุดมสมบูรณ์ — เป็นจุดกำเนิดแนวคิดว่า “เหล้าคือของศักดิ์สิทธิ์”

 

ยุคโคฟุน (古墳時代)ค.ศ. 300–538

เหตุการณ์สำคัญ เริ่มรับวัฒนธรรมจีนและอักษรคันจิเข้ามา

ความหมายและการใช้คำว่า ตัวอักษร “酒” ถูกนำมาใช้ในเอกสารญี่ปุ่น อ่านว่า “sake” และ “shu” ตามระบบเสียงจีน

 

ยุคอาสุกะ – นารา (飛鳥〜奈良時代)ค.ศ. 538–794

เหตุการณ์สำคัญ เมื่อญี่ปุ่นเริ่มมีระบบราชการและรับอิทธิพลจากจีน รัฐบาลได้จัดตั้งหน่วยงานที่รับผิดชอบการผลิตเหล้าชื่อ 造酒司 (Sakabe no Tsukasa) เพื่อผลิตเหล้าสำหรับพิธีการของจักรพรรดิและศาลเจ้า

ความหมายและการใช้คำว่า ช่วงนี้คำว่า “酒” / sake ถูกใช้ในบริบทราชการและพิธีทางศาสนา สะท้อนการที่เหล้าถูกมองเป็น “เครื่องบูชาเทพเจ้า” มากกว่าสินค้า

 

ยุคเฮอัน (平安時代)ค.ศ. 794–1185

เหตุการณ์สำคัญ ในวรรณกรรมอย่าง มังโยชู (万葉集) และ โคจิกิ (古事記) มีการกล่าวถึงการดื่มเหล้าในงานเลี้ยงและบทกวี

ความหมายและการใช้คำว่า คำว่า “酒” / sake เริ่มถูกกล่าวถึงในฐานะ “เครื่องดื่มเพื่อความรื่นรมย์” นอกจากการบูชา

 

ยุคคามาคุระ – มุโรมาจิ (鎌倉〜室町時代)ค.ศ. 1185–1573

เหตุการณ์สำคัญ ช่างหมักเหล้า (杜氏・とうじ: Toji) เริ่มมีบทบาทในการผลิตเหล้าข้าวให้มีการพัฒนาอย่างรวดเร็ว และเริ่มมีโรงหมัก (酒蔵: sakagura) ในระดับชุมชนเพิ่มขึ้น

ความหมายและการใช้คำว่า “酒” / sake กลายเป็นสินค้าพื้นบ้านในหมู่ชนชั้นนักรบ (武士: Bushi) และชาวเมือง

 

ยุคเอโดะ (江戸時代)ค.ศ. 1603–1868

เหตุการณ์สำคัญ เป็นช่วงทองของการผลิตสาเกทั่วประเทศ โรงหมักในภูมิภาคต่าง ๆ ใช้ข้าว น้ำ และสภาพอากาศเฉพาะถิ่นสร้างรสชาติที่แตกต่างกัน

ความหมายและการใช้คำว่า “酒” ในชีวิตประจำวันเริ่มหมายถึง “เหล้าญี่ปุ่น” โดยเฉพาะ ขณะที่เหล้าชนิดอื่นจะระบุชื่อเฉพาะ เช่น Shimizu Sake Brewery

เป็นโรงบ่มสาเกที่ก่อตั้งขึ้นในปี 1874 ในจังหวัดไซตามะ มีแบรนด์หลักคือ Kikko Hanabishi หรือ เหล้า Awamori เป็นเหล้าหมักโคจิที่ทำมาจากข้าวและผงโคจิดำ ซึ่งมีในเกาะOkinawaของญี่ปุ่นตั้งแต่ปี 1429

 

ยุคเมจิ – ไทโช (明治〜大正時代)ค.ศ. 1868–1926

เหตุการณ์สำคัญ เมื่อญี่ปุ่นเปิดประเทศและรับเครื่องดื่มตะวันตก เช่น เบียร์และไวน์ คำว่า 日本酒 (Nihon-shu) จึงถูกบัญญัติขึ้นเพื่อแยกเหล้าข้าวญี่ปุ่นออกจากเหล้าตะวันตก

ความหมายและการใช้คำว่า เพื่อแยกให้ชัด คำว่า “日本酒 (nihonshu)” จึงถูกใช้หมายถึง “เหล้าข้าวแบบญี่ปุ่น” โดยเฉพาะ

 

ยุคโชวะ – เฮเซ (昭和〜平成時代)ค.ศ. 1926–2019

การผลิตอุตสาหกรรมเหล้าขยายตัว และมีการส่งออกสาเกไปทั่วโลก

คำว่า “sake” ในภาษาอังกฤษเริ่มถูกใช้หมายถึง “Japanese rice wine”

 

ยุคเรวะ (令和時代)ค.ศ. 2019–ปัจจุบัน

เหตุการณ์สำคัญ การผลิตอุตสาหกรรมเหล้าขยายตัว และมีการส่งออกสาเกไปทั่วโลก

ความหมายและการใช้คำว่า “sake” กลายเป็นสัญลักษณ์ของ “ความอบอุ่น มิตรภาพ และการเคารพต่อธรรมชาติ” ของญี่ปุ่น

 

การใช้คำว่า 酒”  (sake / shu) ในบริบทวัฒนธรรมญี่ปุ่น

ในปัจจุบัน “酒” สามารถอ่านได้ทั้งสองแบบ โดยมีความแตกต่างเชิงบริบทดังนี้

 

酒 (sake)

การใช้ใช้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน หมายถึงเหล้าข้าวญี่ปุ่น หรือเครื่องดื่มแอลกอฮอล์

ความหมายเชิงวัฒนธรรมสื่อถึงความเรียบง่ายและความใกล้ชิดในชีวิตประจำวัน เช่น “一杯の酒 (ippai no sake)” = เหล้าหนึ่งแก้ว

 

日本酒 (nihon-shu)

การใช้ใช้ในเชิงทางการ หรือเมื่อต้องการระบุว่าเป็น “เหล้าญี่ปุ่นแท้”

ความหมายเชิงวัฒนธรรม เป็นสัญลักษณ์ของภูมิปัญญาและวัฒนธรรมดั้งเดิมของชาติ

 

御神酒 (omiki / o-zake)

การใช้เหล้าที่ถวายเทพเจ้าในศาลเจ้า หรือในพิธีทางศาสนา

ความหมายเชิงวัฒนธรรม สื่อถึงการเชื่อมโยงระหว่างมนุษย์กับเทพเจ้า เชื่อว่าเหล้าเป็นสิ่งบริสุทธิ์ที่นำพาโชคลาภ

 

甘酒 (amazake)

การใช้เหล้าหวานที่แทบไม่มีแอลกอฮอล์ ดื่มในเทศกาลปีใหม่

ความหมายเชิงวัฒนธรรม สื่อถึงความเป็นสิริมงคลและการเริ่มต้นใหม่

 

清酒 (seishu)

การใช้คำทางกฎหมาย หมายถึงเหล้าข้าวที่ผ่านการกรองใส

ความหมายเชิงวัฒนธรรม ใช้ในวงการผลิตและการส่งออก

 

นอกจากนี้ยังมีการเปลี่ยนเสียง (連濁, rendaku) ทำให้ “sake” กลายเป็น “zake” เมื่อต่อท้ายคำ เช่น 甘酒 (ama-zake) เหล้าหวาน หรือ お神酒 (omi-ki / o-zake) เหล้าที่ถวายเทพเจ้า

 

 

酒” (sake) ในบริบทวัฒนธรรมญี่ปุ่น

พิธีกรรมและศาสนา

ในศาสนาชินโต เหล้าถือเป็นของศักดิ์สิทธิ์ ใช้ในพิธี 神事 (shinji) เพื่อถวายแก่เทพเจ้า โดยเชื่อว่าการแบ่งปันเหล้าเป็นการสร้างสายสัมพันธ์ระหว่างโลกมนุษย์กับโลกวิญญาณ คำว่า 御神酒 (omiki) จึงหมายถึง “เหล้าที่ถวายเทพ” ซึ่งมักใช้ในพิธีแต่งงาน การเก็บเกี่ยว และปีใหม่

ความสัมพันธ์ทางสังคม

การรินเหล้าให้กันและกันในงานเลี้ยง (nomikai) ถือเป็นสัญลักษณ์ของความเคารพและมิตรภาพ ไม่ควรรินเหล้าให้ตัวเอง แต่ให้ผู้อื่นรินให้ เป็นการแสดงมารยาทและการยอมรับในความสัมพันธ์ของกลุ่ม

ศิลปะและการดำรงชีวิต

ในฐานะงานหัตถศิลป์ สาเกสะท้อนความละเอียดและความเคารพต่อธรรมชาติ การหมักต้องอาศัยความสมดุลของ “ข้าว น้ำ และเวลา” จึงมักถูกเปรียบเป็น “งานศิลปะที่มีชีวิต”¹³ โรงหมักแต่ละแห่ง (saka-gura) ถือเป็นตัวแทนภูมิปัญญาท้องถิ่นและมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมา

 

คำว่า “酒” (sake) ในบริบทสากล

          ในปัจจุบัน “sake” เป็นที่รู้จักในระดับสากลในฐานะเครื่องดื่มประจำชาติของญี่ปุ่น การส่งออกสาเกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคำว่า “sake” ยังถูกนำมาใช้ในวงการอาหารและการชิม เช่น การจับคู่สาเกกับอาหาร (sake pairing) หรือการชิมสาเก (sake tasting) ซึ่งสะท้อนว่าคำนี้ได้ขยายความหมายจากเครื่องดื่มพื้นบ้าน กลายเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมและอาหารของญี่ปุ่น

ในบริบทสากล “sake” เป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของวัฒนธรรมญี่ปุ่น (culinary diplomacy) ถูกนำเสนอในงานอาหารนานาชาติ การท่องเที่ยว และการส่งออกสินค้า แสดงให้เห็นถึงบทบาทของสาเกไม่เพียงในฐานะเครื่องดื่ม แต่ในฐานะตัวแทนวัฒนธรรมและเอกลักษณ์ของชาติ

 

          คำว่า 酒” (sake / shu) มิได้เป็นเพียงสัญลักษณ์ของ “เครื่องดื่ม” แต่เป็น “ประวัติศาสตร์ของการอยู่ร่วมกันระหว่างคน ธรรมชาติ และศรัทธา” จากรากศัพท์ที่มาจากจีน คำนี้ได้รับการปรับให้กลายเป็นส่วนหนึ่งของวิถีญี่ปุ่น ผ่านการเปลี่ยนแปลงในยุคสมัย ตั้งแต่พิธีกรรมของราชสำนักจนถึงโต๊ะอาหารสมัยใหม่ การศึกษาคำว่า sake จึงเป็นการทำความเข้าใจแก่นแท้ของวัฒนธรรมญี่ปุ่นที่เชื่อมโยงอดีต ปัจจุบัน และโลกสมัยใหม่เข้าด้วยกันอย่างงดงาม

 

ขอบคุณข้อมูลจาก

https://en.sake-times.com

https://japansake.or.jp

https://www.nrib.go.jp

https://www.nationalgeographic.com

https://en.wikipedia.org

 

*______________________________________*

 

เดินทางญี่ปุ่นเมื่อไหร่แนะนำ Nihonsim และ Skyberry Pocket WiFi ใช้งานง่าย สะดวก ใช้อินเตอร์เน็ตได้ไม่จำกัดสบายใจตลอดทริป