
JAPAN
เตรียมตัวก่อนเดินทางไปญี่ปุ่น : คู่มือฉบับละเอียดสำหรับนักเดินทางมือใหม่
สวัสดีครับ ในวันนี้ผมจะขออนุญาตแนะนำการเตรียมตัวก่อนการเดินทางไปญี่ปุ่นให้กับท่านไหนที่ยังไม่เคยไปกันสักเล็กน้อยครับ ว่าแล้วจะมีอะไรบ้างไปอ่านกันได้เลยครับ
ต้องบอกเลยครับว่าญี่ปุ่นเป็นหนึ่งในประเทศจุดหมายปลายทางในฝันของใครหลายๆคนเลยครับ ไม่ว่าจะเพราะความงดงามของธรรมชาติ อาหารที่ขึ้นชื่อในระดับโลก เทศกาลสุดคึกคัก หรือแม้กระทั่งวัฒนธรรมดั้งเดิมที่ยังคงรักษาไว้เป็นอย่างดี แต่ว่าการที่จะไปเที่ยวญี่ปุ่นให้สนุกและไร้กังวลนั้น จำเป็นที่จะต้องมีการเตรียมตัวที่รอบคอบสักนิดนึง และในวันนี้ผมเลยจะพามาดูวิธีการเตรียมตัวก่อนการเดินทางไปญี่ปุ่นแบบครบทุกด้านเลยครับ โดยจะเริ่มตั้งแต่เรื่องเอกสาร การเดินทาง ที่พัก ไปจนถึงเคล็ดลับเล็กๆน้อยๆที่หลายๆคนมักอาจจะมองข้ามไปครับ
เอกสารสำคัญและวีซ่า
สิ่งแรกที่ต้องเช็กเลยคือหนังสือเดินทาง (Passport) ครับ ซึ่งจะต้องมีอายุเหลือไม่น้อยกว่า 6 เดือน หากใกล้หมดอายุแนะนำให้รีบต่อใหม่จะดีที่สุดครับ
และสำหรับนักท่องเที่ยวไทยถือว่าโชคดีมากครับ เพราะเราสามารถไปเที่ยวญี่ปุ่นได้โดยไม่ต้องขอวีซ่าเลยครับ หากพำนักไม่เกิน 15 วัน แต่ถ้าใครมีแผนว่าจะอยู่นานกว่านั้น เช่น ไปเรียนระยะสั้นหรือทำงาน อาจจะจำเป็นต้องขอยื่นวีซ่าตามประเภทที่เหมาะสมครับ
และนอกจากนี้ตม.ญี่ปุ่นอาจจะถามหาหลักฐานการเดินทาง เช่น ตั๋วขากลับหรือใบจองที่พัก และรวมไปถึงอาจจะขอดูเงินสดหรือวงเงินในบัตรเครดิตเพื่อยืนยันว่าคุณสามารถดูแลค่าใช้จ่ายของตัวเองได้ เพราะฉะนั้นควรเตรียมตัวในเรื่องพวกนี้ไว้เสมอครับ
ตั๋วเครื่องบินและการเดินทางภายในญี่ปุ่น
ต้องบอกว่าญี่ปุ่นมีสนามบินนานาชาติหลักหลายแห่ง เช่น Narita และ Haneda (โตเกียว), Kansai (โอซาก้า), Chitose (ซัปโปโร) และ Fukuoka ดังนั้นต้องเลือกสนามบินปลายทางให้เหมาะกับเส้นทางท่องเที่ยวของเราครับ
แต่ถ้าคิดจะไปเที่ยวหลายๆเมือง แนะนำให้ซื้อ JR Pass (Japan Rail Pass) ซึ่งสามารถใช้โดยสารชินคันเซ็นและรถไฟของ JR ได้ไม่จำกัดในช่วงเวลาที่เลือก เช่น 7 วัน, 14 วัน หรือ 21 วัน ต้องบอกว่าคุ้มค่ามากถ้าจะเดินทางยาวๆหลายๆเมืองครับ เช่น โตเกียว–โอซาก้า–เกียวโต–ฮิโรชิม่า
และในเมืองใหญ่ๆ เช่น โตเกียวหรือโอซาก้า ก็ควรซื้อบัตร IC Card อย่าง Suica, Pasmo หรือ ICOCA เพื่อใช้ในการแตะขึ้นรถไฟ รถบัส รวมถึงใช้ซื้อของในร้านสะดวกซื้อหรือเครื่องขายอัตโนมัติได้ด้วยครับ สะดวกสบายสุดๆ
เงินและค่าใช้จ่าย
แม้ว่าญี่ปุ่นจะเป็นประเทศที่ค่อนข้างทันสมัย แต่ก็ยังใช้เงินสดกันอย่างแพร่หลายครับ โดยเฉพาะร้านอาหารเล็กๆ ตลาดตามท้องถิ่น หรือวัดและศาลเจ้า เพราะฉะนั้นควรแลกเงินสดติดตัวไปให้เพียงพอต่อจำนวนที่คาดการณ์ว่าจะใช้
ส่วนบัตรเครดิตก็สามารถใช้ได้ในห้างสรรพสินค้า โรงแรม หรือร้านใหญ่ๆครับ และถ้าเงินสดหมดก็ไม่ต้องกังวลหรือตกใจ เพราะสามารถกดเงินสดจากตู้ ATM ได้ง่ายๆตามานสะดวกซื้ออย่าง 7-Eleven, Lawson และ FamilyMart
การวางแผนทริปและที่พัก
การเลือกช่วงเวลาเดินทางก็ถือว่าสำคัญมากเช่นกันครับ เพราะแต่ละฤดูในญี่ปุ่นก็จะให้บรรยากาศที่ต่างกันไปครับ
– ฤดูใบไม้ผลิ (มี.ค.–เม.ย.) : แน่นอนว่าคือการไปชมซากุระ
– ฤดูร้อน (ก.ค.–ส.ค.) : ก็ต้องเทศกาลดอกไม้ไฟและงานวัด
– ฤดูใบไม้ร่วง (ต.ค.–พ.ย.) : คือการไปดูใบไม้เปลี่ยนสีสุดสวยงาม
– ฤดูหนาว (ธ.ค.–ก.พ.) : คือการเล่นสกีและชมเทศกาลหิมะ
เรื่องที่พักที่ญี่ปุ่นก็จะมีให้เลือกค่อนข้างหลากหลายครับ แน่นอนว่าตั้งแต่โรงแรมหรู โฮสเทลราคาประหยัด แคปซูลโฮเทล ไปจนถึงเรียวกัง (บ้านพักสไตล์ญี่ปุ่น) ที่จะมาพร้อมกับออนเซ็น และถ้าเดินทางช่วง High Season ควรจองล่วงหน้าเพื่อเลี่ยงการที่ที่พักเต็มครับ
ของใช้จำเป็นที่ควรเตรียมไป
1. ปลั๊กไฟ ที่ญี่ปุ่นใช้ปลั๊กแบบขาแบน 2 ขา (Type A) และแรงดันไฟ 100V หากมีเครื่องใช้ไฟฟ้าส่วนตัวควรพกอะแดปเตอร์สำหรับแปลงแรงดันไฟไปด้วยครับ
2. ยาและของใช้ส่วนตัว ควรพกยาสามัญที่จำเป็นติดตัวไปด้วยครับ เพราะการซื้อยาที่ญี่ปุ่นอาจจะลำบากเนื่องจากเรื่องภาษา
3. เสื้อผ้า ควรแต่งตัวให้เหมาะกับฤดูกาล ฤดูหนาวก็ต้องมีเสื้อโค้ทหนาๆและฮีทเทคครับ ส่วนฤดูร้อนก็ควรเลือกเสื้อผ้าที่ระบายอากาศได้ดี
4. รองเท้า ควรเลือกรองเท้าที่ใส่สบาย เพราะการเดินทางในญี่ปุ่นอาจจะต้องใช้การเดินเยอะมากพอสมควร
5. ร่มหรือเสื้อกันฝน ควรเตรียมไปโดยเฉพาะช่วงฤดูฝน (มิ.ย.–ก.ค.) แต่ถ้าไม่สะดวกที่จะพกไปก็อาจจะไปหาซื้อที่ญี่ปุ่นได้ครับ
แอปพลิเคชันที่ควรมีติดเครื่อง
– Google Maps : ใช้นำทางทั้งการเดินและการนั่งรถไฟ
– Japan Travel (Navitime) : คำนวณเส้นทางรถไฟและค่าโดยสาร
– Google Translate : ช่วยสื่อสารกับคนในท้องถิ่นที่อาจจะไม่ได้ภาษาอังกฤษ
– Klook / KKday : สำหรับจองบัตรเข้า Universal, Disneyland หรือพาสท่องเที่ยวต่างๆ
– Yurekuru Call : แอปแจ้งเตือนแผ่นดินไหว
มารยาทและวัฒนธรรมญี่ปุ่น
ญี่ปุ่นขึ้นชื่อเรื่องความเป็นระเบียบและมารยาทครับ ดังนั้นคนที่ไปเที่ยวก็ควรต้องเคารพกฎเล็กๆน้อยๆของเขาเพื่อความราบรื่นในการท่องเที่ยวครับ เช่น
– การพูดเสียงเบาบนรถไฟ
– ต้องต่อแถวเสมอ ไม่ว่าจะซื้อของหรือรอขึ้นรถไฟ
– ให้พกถุงขยะเล็กๆไว้เสมอ เพราะบางพื้นที่ไม่มีถังขยะ
– ไม่จำเป็นต้องให้ทิปครับ ยกเว้นแต่บางกรณี เช่น การพักเรียวกัง
🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷🩷
สุดท้ายนี้หากท่านไหนที่อยากไปญี่ปุ่น
แต่ยังไม่รู้เลยว่าจะใช้ internet SIM อะไรดี
นี่เลยครับ ทางเราขออนุญาตนำเสนอ “Nihon SIM”
Internet SIM โดยจะมีระยะเวลา 4 วัน 7 วัน 10 วันและ 15 วันครับ ทุกท่านสามารถใช้งานได้แบบอุ่นใจไม่ต้องกลัว internet หมดเพราะตัว SIM เป็นแบบไม่จำกัดปริมาณ (Unlimited) ครับ โดยตัว SIM รองรับทั้ง iOS และ Android ไม่ว่าลูกค้าจะใช้งานโทรศัพท์รุ่นอะไรที่ใช้ระบบปฏิบัติการดังกล่าวก็จะสามารถใช้งาน SIM นี้ได้อย่างไม่มีปัญหาครับ